วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ความรู้ที่ “ไม่เท่ากัน”..ทำให้ความสำเร็จของธุรกิจแตกต่างกัน - Asymmetric Information


ความรู้ที่ “ไม่เท่ากัน”..ทำให้ความสำเร็จของธุรกิจแตกต่างกัน - Asymmetric Information

คนบางคนคิดว่ารู้เรื่องราวดีอย่างยิ่ง...
แล้วพยายามที่จะสรุปอะไรต่อมิอะไรด้วยความคิดตนเอง เพื่อกำหนดทิศทางของธุรกิจ
หลายครั้งพบว่า...ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ตั้งใจไว้

มองเพียงแค่นี้...ก็จะเห็นสิ่งที่น่าคิดอยู่ 2 ประเด็น คือ...
1.    คนคนนั้น มีความมั่นใจที่สูงเกินไป จนลืมมองไปว่า ความรู้ที่มีอยู่(ในการไปทำงาน) ยังไม่พอ ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดโอกาสที่จะผิดพลาด(จากเป้าหมาย)ได้สูง
2.    การที่มีข้อมูลที่น้อยหรือไม่รอบด้าน โดยเฉพาะในเรื่องที่มีการเผลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Dynamic)นั้น มีความเสีย่งที่จะเกิดความล้มเหลวหรือผลลัพธ์เกิดไปในแบบอื่น(ที่อาจจะไม่ต้องการ)



ในโลกของความเป็นจริงแล้ว...
โอกาสที่เราจะมีข้อมูลหรือความรู้อย่างเท่าเทียมกันนั้น...
เป็นไปได้ยากมาก
หรือในศัพท์ทางธุรกิจ เรียกว่า Asymmetric information”...
หรือ Information Asymmetry
แปลความได้ว่า “การมีข้อมูล(หรือความรู้)หรือโอกาสที่จะมีข้อมูล(หรือความรู้) อย่างไม่เท่าเทียมกันทุกคนหรือทุกฝ่าย”...
บางท่านใช้ความว่า “อสมมาตรทางข้อมูล” ... ฟังดูทางการมากๆ (แต่ใครชอบและเข้าใจได้ดี ก็ ok ครับ)

ตัวอย่างเช่น...
ธนาคารที่เป็นแหล่งเงินขององค์กรธุรกิจต่างๆนั้น...
มักจะมีข้อมูล(หรือความรู้) ที่ได้เปรียบกว่า สถาบันการเงินอื่นๆ
ซึ่งก็คือ “การมีข้อมูล(หรือความรู้)ที่ไม่เท่าเทียมกัน” ในอุตสาหกรรม หรือ การแข่งขันที่เหมือนกัน
(ในที่นี้คือ อุตสาหกรรมทางการเงิน)
ด้วยเหตุนี้...
ธนาคารจึงมีโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตได้มากกว่า...
มีโอกาสที่จะรักษาหรือหาลูกค้าได้ดีกว่า...
ว่าง่ายๆก็คือ...
การรู้ข้อมูลของลูกค้าแต่ละราย...สามารถจัด campaign หรือ program ที่เหมาะสมและ...
ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้ดีกว่า...
หรืออีกทางหนึ่งก็คือ...
ลูกค้าที่มีความเสี่ยงทางการเงิน...เมื่อธนาคารรู้อย่างนี้ ก็ย่อมต้องมีมาตรการเข้มงวดมากขี้น
ในการออกสินเชื่อหรือทำธุรกรรมต่างๆ
เป็นต้น

ว่าไปแล้ว...
คงไม่เพียงพบ “ความไม่เท่าเทียมกันของการมีข้อมูลหรือความรู้” ในอุตสาหกรรมทางการเงินเท่านั้น
อุตสาหกรรมหรือธุรกิจอื่นๆก็มีลักษณะอย่างเดียวกัน
และที่น่าสนใจอีกประเด็นก็คือ...
ประเทศที่มีผู้บริหารประเทศหรือนักการเมืองที่สามารถเข้าถึงข้อมูล/ความรู้ได้มากกว่าประชาชน
ก็ย่อมได้ประโยชน์จากการใช้ข้อมูลที่มีมากกว่านี้
ขึ้นกับว่า “ท่านเหล่านี้” จะใช้ไปในทางไหน...
เพื่อตนเองและพวกพ้อง หรือ...
เพื่อประเทศชาติและประชาชน

นี่ก็คือเรื่องราวของ “ความไม่เท่าเทียมกันของการมีข้อมูล/ความรู้”
Information Asymmetry
ภาพที่ซ่อนอยู่ลึกๆ...
และลึกกว่าภาพของการไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและชนชั้น

....................................................
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงที่สุด
อ๋อ ขอรับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น