วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

Cultural clash or Organizational conflict ทำไงดี เมื่อสององค์กรลงเรือลำเดียวกัน

Organizational conflict” หรือ Cultural clash
เมื่อองค์กรจำเป็นที่จะต้องรวมตัวกัน ตัวอย่างเช่น จากการที่ Adidas ไปซื้อบริษัท Salomon หรือ Reebok เข้ามา ย่อมมีโอกาสที่จะเกิด “ความขัดแย้ง หรือ conflict or Clash” กันได้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว...
ต่างคน ต่างเก่ง...
·         Adidas เก่งเรื่องการผลิต
·         อีกองค์กร เก่งเรื่องการตลาด

มุมคิดหรือวิธีการทำงานหรือแม้แต่วัฒนธรรมองค์กรที่ปลูกฝังกันมายาวนาน ย่อมแตกต่างกันอย่างมาก
ดังนั้น...
สิ่งที่ผู้บริหารต้องทำคือ...
๑. การจัดโครงสร้างขององค์กรใหม่ ให้เห็นทิศทางที่ชัดเจน Shape of direction เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อตัวทีมผู้บริหารงานว่า สามารถจัดการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นมาได้เป็นอย่างดี
๒. การจัดการกระจายกำลังพลได้อย่างเหมาะสม และให้อำนาจในการจัดการอย่างเต็มที่ในคนที่เลือกแล้วว่าจะให้ทำงานสำคัญ Empowerment
๓. “การสร้างองค์การให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้” เป็น LO&KM organization (LO=Learning organization, KM=Knowledge Management)
LO=Learning organization เป็นการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรใหม่ (Culture) เพื่อให้ทุกคนชอบที่จะเรียนรู้และแบ่งปันความรู้ต่อกัน (Sharing)
KM=Knowledge Management คือการที่แต่ละคน/แต่ละฝ่าย สามารถทำงานได้ดี แล้วได้องค์ความรู้(Knowledge)ออกมาจากการทำงาน แล้วสามารถแบ่งปันความรู้ไปสู่หน่วยงานอื่นๆในองค์กรได้(Share) เพื่อเป้าหมายให้องค์กรสำเร็จร่วมกัน
ตัวอย่างของการทำ LO&KM ได้แก่
๑.     Jack Welch แห่ง GE
เป็นคนหนึ่งที่สามารถเป็นวัฒนธรรมองค์กรได้สำเร็จอย่างสูง นำพา GE ไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ LO และเกิดผลการดำเนินงานที่สำเร็จอย่างมากมาย
ซึ่งการทำแบบนี้ สิ่งที่ตามาที่สำคัญคือ Jack ได้สร้างผู้บริหารที่จะขึ้นมานำองค์กรอย่างมากมาย (Successors) ทำให้องค์กรสำเร็ยอย่างยาวนาน
๒.     A.G.Lafley แห่ง P&G 
เป็น CEO ที่เข้ามารับงานช่วงที่องค์กรตกต่ำมากที่สุด แม้บุคลิกของ Lafley จะเป็นคนท่ำไม่พูด ดูเงียบๆ แต่ความมุ่นมั่นของเขา ก็สามารถนำพาองค์กรกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหนึ่ง
สิ่งที่เขาทำ มี 2 สิ่งหลักๆ ได้แก่
-ให้พนักงานมุ่งไปที่ลูกค้าเป็นแกนหลัก Customer
-การสร้างนวัตกรรม Innovation จะต้องออกมาจากทุกคน ไม่ใช่แค่เพียงหน่วยงาน R&D โดยนวัตกรรมที่สำคัญที่สุดคือ “มาจากลูกค้า” นั่นเอง ดังนั้น ทุกคนต้องลงไปอยู่ฝใช้ชีวิตกับลูกค้า
-และสิ่งที่เขาทำเป็นรูปธรรมมากๆในการสร้างองค์กร LO ภายใน ได้แก่ การบริหารแบบ Matrix คือ ไม่มีผนังกั้นห้องทำงาน ทุกคนต้องนั่งรวมกัน เพื่อจะได้คุยกันมาขึ้น เช่น การตลาดนั่งใกล้กับบัญชี เพื่อสร้างโอกาสคุยกัน เป้าหมายเดียวกันคือ สร้างความพอใจกับลูกค้า ละที่สำคัญคือ ลดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานได้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น