วิเคราะห์ “รูปแบบการเติบโต” ขององค์กร ด้วย Growth Model ของ Greiner
พูดถึง “การเติบโต” ขององค์กรนั้น...
ในเชิงกลยุทธ์แล้วเรามี “รูปแบบ” หรือ Model ที่ใช้วิเคราะห์และสร้างกลยุทธ์อยู่หลายตัว
ครั้งนี้อยากเสนอ Growth Model ของ Greiner ซึ่งมองในเชิงการวิเคราะห์ว่า....
องค์กรของเรานั้น ตอนนี้อยู่ตรงจุดไหนของการเติบโต Growth
http://www.12manage.com/images/picture_greiner_curve_growth_phases.gif |
โดย Greiner ใช้รูปกราฟ ๒ แกน เป็นตัวประเมินระยะ(Phase) ของการเติบโตขององค์กร คือ แกนของขนาดองค์กร(Organisation Size) และ เวลาที่ผ่านไป(Time)
ประโยชน์ของ Growth Model ของ Greiner นี้ คือ...
-ทำให้องค์กรรู้ว่า องค์กรอยู่ตรงจุด/ระยะไหนของช่วงการเติบโตในอุตสาหกรรมนั้นๆ (Phase)
-ทำให้องค์กรสามารถประเมินได้ว่า องค์กรพบปัญหาหรือกำลังจะพบปัญหาอะไรในอนาคตอันใกล้นี้ (Problems)
Growth Model ของ Greiner แบ่งออกได้เป็น 6 ระยะ Phase ได้แก่
1. Creativity ระยะของการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ
เป็นระยะที่องค์กรยังใช้เวลายุ่งอยู่กับ “ผลิตภัณฑ์ และ/หรือ ตลาด” เป็นหลัก
โดยจะมุ่งที่จะผลิตสินค้า Product ออกสู่ตลาด
การทำการสื่อสาร Communication ในองค์กร จะมีอย่างมากมาย แต่อาจจะมีลักษณะไม่เป็นทางการมากนัก (Informal)
เมื่อถึงจุดหนึ่ง(เวลาผ่านไปถึงจุดหนึ่ง) องค์กรจะเผชิญกับ “วิกฤติภาวะผู้นำ” Leadership crisis เนื่องจากเริ่มมีปัญหาในด้าน “การตัดสินใจในทิศทางที่แน่ชัด” ขององค์กร
ก็จะเคลื่อนเข้าสู่ระยะที่ 2 ต่อไป
2. Direction ระยะของการกำหนดทิศทางที่แน่ชัด
ระยะนี้จะมีการสร้างหรือนำการทำงานโดย “ผู้จัดการที่มีความสามารถ” มากขึ้น เพื่อบริหารองค์กร มีการสร้างโครงสร้างที่ชัดเจนมากขึ้น มีการสื่อสารที่เป็นรูปแบบมากขึ้น
ที่สำคัญ คือ...
มีการ “สั่งงาน” ลงมาจากผู้บริหารข้างบนสู่พนักงานระดับล่าง แบบ Top-down management
แล้วจะเคลื่อนเข้าสู่ระยะที่ต้องการความเป็นอิสระในการทำงานมากขึ้น Autonomy crisis
3. Delegation ระยะของการมอบหมายอำนาจงานออกไป
เป็นระยะที่มีการใช้การบริหารแบบ “มอบหมายงาน” หรือ กระจายอำนาจการบริหารออกไปส่วนนอกมากขึ้น
มีการแบ่งความรับผิดชอบออกไปอย่างชัดเจน
การตัดสินใจจึงสามารถทำได้ในผู้จัดการระดับล่าง ที่ดูแลส่วนงานต่างๆที่แยกเป็นอิสระมากขึ้น
แล้วหลังจากนี้ องค์กรจะเข้าสู่ระยะ “วิกฤติของการควบคุมการบริหารงาน” Crisis of Control
4. Co-ordination ระยะของการทำงานแบบต้องประสานงานกันอย่างมาก
เป็นระยะของการทำงานที่มีแผนงานมากขึ้น
เริ่มมีการ “ดึงอำนาจการบริหารคืนสู่ส่วนกลาง” เช่น มีหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการบางเรื่อง หากจะใช้ประโยชน์ จะต้องร้องขอมาที่ส่วนกลาง เป็นต้น
สิ่งที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ หากองค์กรมาถึงจุดนี้ การบริหารงานจะ “มุ่งเป้าหมาย” มากกว่าการมุ่งวิธีการแบบเดิม
แล้วองค์กรจะเข้าสู่ระยะที่เน้นกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด คล้ายภาครัฐที่ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนการปฏิบัติงาน Red Tape crisis
5. Collaboration ระยะของการทำงานร่วมกันเป็นทีมมากขึ้น
เป็นระยะที่เน้นการทำงานเป็น “ทีมงาน” Team-working มากขึ้น
มีการใช้รูปแบบงาน “กลุ่มทำงานข้ามสายงาน” Cross functional team มากขึ้น เพื่อให้งานรวดเร็วมากกว่าเดิม หรือ มีขั้นตอนที่ลัดสั้นลง ทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
แล้วองค์กรก็เคลื่อนเข้าสู่ระยะการเติบโตอิ่มตัวขององค์กร(อิ่มตัวภายในองค์กร) Internal growth crisis
6. Alliances ระยะของการสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับภายนอก
เป็นระยะที่องค์กรต้องเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับภายนอกมากขึ้น
ต้องสร้างเครือข่ายกับองค์กรภายนอกมากขึ้น เพื่อที่จะรักษาการเติบโตต่อไป
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงที่สุด
อ๋อ ขอรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น