แม้ว่า Ansoff’s Model จะดูว่า “มีอายุ” ...
คือ เกิดและนำมาใช้นานมากแล้ว...
แต่ผมยังเห็นว่า ตัว Model นี้ของปรมาจารย์ Ansoff นั้น ยัง “ขลัง” และใช้ประโยชน์ได้ง่ายและดี
แล้วที่น่าแปลกใจคือ...
คนส่วนมากจะใช้เพียง Model ที่หนึ่งของอาจารย์เท่านั้น
ทั้งๆที่อาจารย์ Ansoff เองก็ได้พัฒนา Model ที่สอง ซึ่งต้องใช้ควบคู่ไปกับ Model ที่หนึ่ง
จึงจะสมบูรณ์ คือ...
Model ที่หนึ่ง คือ Growth Vector สำหรับการตั้ง “เป้าหมาย”
Model ที่สอง คือ Geographical Growth Vector สำหรับการทำให้เป้าหมายชัดเจนมากขึ้นและ ครบถ้วนมากขึ้น(เพิ่มระดับความลึกหรือมิติการมองเข้ามาก) เพื่อทำให้เป้าหมายมุ่งไปในทิศทางที่เป็นไปได้ หรือ เกิดขึ้นได้จริง(สัมฤทธิ์ผล)
http://www.tutor2u.net/blog/files/blog-ansoff-140110.gif |
ในระดับการสร้างกลยุทธ์ขององค์กรนั้น...
แบ่งใหญ่ๆได้เป็น 2 ระดับที่สืบเนื่องกัน คือ
๑. การตั้งเป้าหมาย Portfolio strategy
๒. การสร้างงานหรือแผนการปฏิบัติเพื่อให้เป้าหมายทำได้และสัมฤทธิ์ผลจริง Competitive strategy
ด้วยเหตุนี้ ท่านอาจารย์ Ansoff จึงสร้าง Model ออกมา 2 ตัวด้วยกัน
เพื่อให้การดำเนินกลยุทธ์ขององค์กร เป็นรูปธรรมและชัดเจนในการนำไปสู่การปฏิบัติ
หรือ นำไปสู่การสร้าง กลยุทธ์ในระดับธุรกิจ(Business strategy) และ กลยุทธ์ในระดับหน้าที่(Functional Strategy)ได้อย่างดีมากขึ้น
Model ที่หนึ่ง คือ Growth Vector สำหรับการตั้ง “เป้าหมาย”
จะเห็นว่ามีมุมมองเพียง 2 มิติเท่านั้น คือ
ด้านผลิตภัณฑ์ Product (ที่มีอยู่และจะเกิดใหม่)
และด้านตลาด Market (ที่มีอยู่และจะเกิดใหม่)
หลังการกำหนดทิศทางตรงนี้ องค์กรจะได้เป้าหมายว่า...จะเดินทางไหน(?)
Model ที่สอง คือ Geographical Growth Vector
ตรงโมเดลนี้จะแบ่งออกไปเป็น 3 มิติด้วยกัน (เป็นรูปลูกเต๋า)
โดยองค์กรต้องประเมินใน 3 ด้านหลักดังนี้
๑. ความต้องการของตลาด Market Need
๒. ด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องผลิตภัณฑ์และงานบริการ Product/Service Technology
๓. มุมมองด้านพื้นที่จัดการ Market Geography
ซึ่งในแต่ละด้านก็ต้องกำหนดมุมมองออกเป็น 2 ส่วนเหมือน Model ที่หนึ่ง คือ...
ต้องมองทั้ง Present(สิ่งที่องค์กรดำเนินการอยู่หรือมีอยู่) และ New(สิ่งที่องค์กรกำลังจะดำเนินการต่อไป)
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงที่สุด
อ๋อ ขอรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น